กลยุทธ์สู่ความสำเร็จของ Samsung บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีระดับโลก
02 Aug 2024
BY YoungBusinessGuide
Samsung เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตั้งแต่สมาร์ทโฟน ทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ไปจนถึงChip Semiconductor
ในอดีตซัมซุงเคยมีภาพลักษณ์เป็นบริษัทผลิตสินค้าราคาถูกคุณภาพต่ำ
แต่วันนี้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีนวัตกรรมและคุณภาพ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้มาจากกลยุทธ์หลักๆ
1. มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา (R&D)
Samsung ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นอย่างมาก
โดยมีศูนย์วิจัยทั้งในประเทศเกาหลีใต้และต่างประเทศกระจายอยู่หลายแห่งทั่วโลก
ซึ่งแต่ละศูนย์จะมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะด้าน เช่น สมาร์ทโฟน, จอภาพ, ชิปประมวลผล ฯลฯ
งบประมาณการลงทุนด้าน R&D ของ Samsung อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม
โดยในปี 2020 ซัมซุงมีค่าใช้จ่ายด้าน R&D สูงถึง 18.6 พันล้านดอลลาร์
ด้วยการลงทุนด้าน R&D อย่างต่อเนื่อง ทำให้ Samsung สามารถคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ
ออกสู่ตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น จอภาพ Super AMOLED, กล้องความละเอียดสูง, ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด ฯลฯ
ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่างให้แก่ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงและทำให้มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน
2. ใส่ใจความต้องการของลูกค้า
Samsung ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า
ซึ่งสิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้วิธีการวิจัยตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง
รวมถึงรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจความต้องการ
นำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์มากที่สุด
เช่น จากการวิจัยพบว่าลูกค้าต้องการสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอใหญ่
แต่ยังพกพาได้สะดวก ซัมซุงจึงออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นพับได้ Galaxy Z Flip
ตอบสนองความต้องการดังกล่าว หรือการปรับปรุงฟีเจอร์กล้องให้ถ่ายภาพได้สวยงายยิ่งขึ้น
เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคโซเชียลมีเดีย
Samsung ยังมีหน่วยงานบริการลูกค้าที่รับเรื่องร้องเรียนและข้อติชม
รวมถึงมีศูนย์บริการหลังการขายกว่า 3,000 แห่งในกว่า 200 ประเทศ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
ทำให้ Samsung สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุด
3. สร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
Samsung มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ครอบคลุม
เกือบทุกเซ็กเมนต์ในตลาด ทั้งรุ่นเรือธงระดับพรีเมี่ยม รุ่นกลาง และรุ่นประหยัด
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อแตกต่างกันไป
ยกตัวอย่างสมาร์ทโฟน Samsung มีตั้งแต่ Galaxy S ที่เน้นนวัตกรรมล้ำสมัยในราคาระดับพรีเมี่ยม
Galaxy A ซีรีส์ที่ได้สเปคสูงในราคาระดับกลาง
ไปจนถึง Galaxy M ซีรีส์ราคาประหยัดแต่คุณภาพดี
กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Samsung ครอบคลุมลูกค้าแทบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะมีงบประมาณเท่าไหร่ก็สามารถซื้อสมาร์ทโฟนซัมซุงได้
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่หลากหลาย เช่น แท็บเล็ต, สมาร์ทวอช, หูฟังไร้สาย, ทีวี เป็นต้น
การมีผลิตภัณฑ์หลากหลายทำให้ Samsung กระจายความเสี่ยงได้ดี
ไม่พึ่งพายอดขายจากผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งมากเกินไป
อีกทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตแบบครบวงจร
ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซัมซุงได้ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน
4. กลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างการตลาดของ Samsung
- ใช้ดาราดังระดับโลกเป็นพรีเซนเตอร์สร้างการจดจำแบรนด์ เช่น ลิโอเนล เมสซี่
- สนับสนุนมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ อย่างโอลิมปิกและฟุตบอลโลก
- จับมือพาร์ตเนอร์ระดับโลกจัดแคมเปญโปรโมชั่น เช่น ซื้อสมาร์ทโฟนรับส่วนลดจาก Visa
- เปิดตัวสินค้าใหม่อย่างยิ่งใหญ่ผ่านอีเว้นต์ Samsung Unpacked
- ตั้งโชว์รูมใจกลางเมืองสำคัญๆ ทั่วโลก ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีล่าสุด
กลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์และน่าสนใจเหล่านี้ ช่วยให้ Samsung เป็นแบรนด์ที่ผู้คนพูดถึงและจดจำได้ทุกยุคทุกสมัย
5. ควบคุมคุณภาพการผลิต
Samsung เป็นทั้งผู้ออกแบบและผู้ผลิตสินค้าด้วยตนเองแทบทั้งหมด โดยมีโรงงานผลิตกระจายอยู่ทั่วโลก
มีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบไปจนถึงการควบคุมการผลิตสินค้าสำเร็จรูป
โรงงานผลิตของซัมซุงมีการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต
เช่น ระบบออโตเมชั่น หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดความผิดพลาดจากการผลิต
รวมถึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้อย่างสม่ำเสมอ
Samsung ยังมีมาตรฐานในการทดสอบสินค้าก่อนการส่งมอบ
โดยมีแผนกควบคุมคุณภาพทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอน
รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพ ความทนทาน อายุการใช้งาน สัญญาณรบกวน การใช้พลังงาน ความร้อน ความปลอดภัย ฯลฯ เพื่อให้สินค้าที่ส่งถึงมือผู้บริโภคมีคุณภาพสูงที่สุด
6. ขยายตลาดระดับโลก
Samsung เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และโอเชียเนีย โดยกลยุทธ์การขยายตลาดต่างประเทศของซัมซุง มีหลายอย่างมาก
- ข้าไปตั้งบริษัทในประเทศที่มีศักยภาพสูง เช่น จีน อินเดีย บราซิล เพื่อทำความเข้าใจตลาดและเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด
- ปรับสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการท้องถิ่น เช่น ออกแบบสมาร์ทโฟนโมเดลพิเศษเพื่อตลาดอินเดีย
- ร่วมเป็นสปอนเซอร์กิจกรรมระดับโลกเพื่อเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ เช่น กีฬาโอลิมปิก
- สร้างศูนย์บริการ Samsung ในเมืองสำคัญทั่วโลกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการแก้ปัญหาสินค้า
- เปิด Samsung Store หรือร้านขายสินค้าซัมซุงแบบครบวงจร ในศูนย์การค้าระดับโลกเพื่อสร้างประสบการณ์ใกล้ชิดกับแบรนด์
กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้ Samsung สามารถเจาะตลาดต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือส่วนแบ่งการตลาดจากต่างประเทศของ Samsung ในปัจจุบันมากกว่า 70% ของรายได้ทั้งหมด
7. พันธมิตรทางธุรกิจ
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Samsung ประสบความสำเร็จ คือการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำต่างๆ
รวมถึงคู่ค้าและซัพพลายเออร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันเทคโนโลยี ความรู้ และทรัพยากร
จะนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน รวมถึงการขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
พันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของ Samsung ได้แก่
Google – Samsung เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android ของ Google บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทั้งสองบริษัทร่วมกันพัฒนาและออกแบบประสบการณ์การใช้งานให้ลงตัวที่สุด
Microsoft – ร่วมกันพัฒนาบริการคลาวด์, IoT, AI และระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อใช้ในองค์กร เช่นระบบ Samsung Knox
McAfee – ร่วมกันพัฒนาระบบป้องกันไวรัสที่ติดตั้งมาให้ในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของซัมซุง
นอกจากนี้ Samsung ยังร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น BMW และ Audi ในการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์อัจฉริยะ
การสานสัมพันธ์กับพันธมิตรชั้นนำเช่นนี้ จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ Samsung ยืนหยัดอยู่ในฐานะหนึ่งในผู้นำนวัตกรรมของโลก และธุรกิจยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต
กลยุทธ์ความสำเร็จของ Samsung เกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน
ตั้งแต่การลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา การใส่ใจความต้องการของลูกค้า การสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การทำตลาดอย่างต่อเนื่อง การมุ่งเน้นคุณภาพ การขยายไปยังตลาดต่างประเทศ และการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ
Samsung ผสมผสานกลยุทธ์แต่ละด้านเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
จนสามารถสร้างความแตกต่างและเอาชนะใจผู้บริโภคทั่วโลก
ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กรที่กล้าลงทุนและเสี่ยงเพื่อนำพาธุรกิจท้าทายขีดจำกัด
จนสามารถเติบโตก้าวกระโดดจากบริษัทเล็กๆ ในเมืองแทกู สู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกได้ในที่สุด
ความสำเร็จของ Samsung จึงเป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจให้กับธุรกิจทุกขนาด
ว่าด้วยความมุ่งมั่น ไม่หยุดพัฒนา และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ก็สามารถพาองค์กร
ไปสู่จุดสูงสุดได้ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากจุดไหนก็ตาม
เส้นทางแห่งความสำเร็จของ Samsung จะยังคงดำเนินต่อไปบนความท้าทายใหม่ๆ ในโลกแห่งเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
สำหรับธุรกิจที่อยากเล่าเรื่องราว #เริ่มยังไงได้ยังงี้ ที่มาของธุรกิจ จุดเด่น ความสำเร็จ เรื่องราวที่อยากบอกต่อ สามารถติดต่อแชร์เรื่องราวให้ทาง Young Business Guide เพื่อ ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ทั้งการเขียนคอนเทนต์ การถ่ายภาพ หรือทำคลิปวิดีโอเพื่อโปรโมทได้ โดยท่านจะได้ลิขสิทธิ์ภาพและวิดีโอคุณภาพไปใช้สำหรับทำการตลาดภายในบริษัทท่าน
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
Mail : youngbusinessguide@gmail.com
เบอร์โทร : 085-3956163 ( คุณโบ )
หรือ website : https://youngbusinessguide.com/contact/
รีวิว #เริ่มยังไงได้อย่างงี้
