เครื่องมือการตลาดดิจิทัลใช้ฟรี! สำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจมือใหม่
02 Aug 2024
BY YoungBusinessGuide
เพื่อนๆ ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจหลายคนอาจเคยเจอปัญหา
- อยากทำโฆษณาสวยๆ แต่ทำกราฟิคไม่เป็น
- อยากรู้ว่าลูกค้าชอบอะไร แต่ไม่รู้จะเก็บข้อมูลยังไง
- งานเยอะ วุ่นวาย จัดการไม่ถูก
- อยากโพสต์โซเชียลให้ปัง แต่ไม่มีเวลามานั่งโพสต์ทุกวัน
- ไอเดียเพียบ แต่จดไว้แล้วลืม หาไม่เจอ
วันนี้เรามาพูดถึงเครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่ใช้งานง่ายและฟรี เหมาะสำหรับคนที่กำลัง “เริ่มต้นธุรกิจ” มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่จะช่วยให้การเริ่มต้นธุรกิจมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
1. Google Analytics: วิธีรู้ใจลูกค้า

Google Analytics เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ทรงพลัง ช่วยให้คุณรู้ว่าใครเข้ามาเว็บคุณบ้าง เขาชอบดูอะไร อยู่นานแค่ไหน “ข้อมูล” เหล่านี้คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้รู้ใจลูกค้านั้นเอง
ข้อดีของ Google Analytics
- เป็นเครื่องมือที่ Google ให้ใช้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- รองรับเว็บไซต์ได้หลายเว็บ โดยไม่จำกัดจำนวน
- มีฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วนสำหรับการวิเคราะห์เว็บไซต์ทั่วไป
- เข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้ง ปรับแต่งการตลาดได้ตรงจุด
นอกจากนี้ Google Analytics ยังมีฟีเจอร์ขั้นสูงอื่นๆอีก เช่น
- Real-time reporting: ดูข้อมูลแบบ real-time ว่าตอนนี้มีใครกำลังเข้าชมเว็บอยู่บ้าง
- Custom reporting: สร้างรายงานแบบกำหนดเองตามความต้องการ
- Data visualization: แสดงข้อมูลในรูปแบบกราฟและแผนภูมิที่เข้าใจง่าย
- Integration กับ Google Ads และ Search Console: เชื่อมโยงข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ของ Google
2. Canva: ทำกราฟิคไม่เป็นก็สวยได้

Canva เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่มีทักษะด้านการออกแบบสามารถสร้างงานกราฟิกที่ดูเป็นมืออาชีพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องการสร้างงานกราฟิกคุณภาพดีโดยไม่ต้องจ้างนักออกแบบมืออาชีพ
ข้อดีของ Canva
- อินเตอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ออกแบบเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
- ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม ใช้งานผ่านเว็บบราวเซอร์หรือแอพมือถือได้ทันที
- มี Template สำเร็จรูปเยอะ เช่น โพสต์โซเชียลมีเดีย, โลโก้, นามบัตร, แบนเนอร์, โปสเตอร์, เรซูเม่, ฯลฯ
- มีคลังรูปภาพไอคอน และกราฟิกให้เลือกใช้มากมาย ไม่ต้องหาจากแหล่งอื่น
- ฟังก์ชัน AI ช่วยออกแบบ: มีฟีเจอร์ AI ที่ช่วยสร้างงานออกแบบจากคำอธิบายง่ายๆ
- ทำงานร่วมกันได้: สามารถแชร์และทำงานร่วมกับทีมได้ เหมาะสำหรับการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนไอเดีย
- เหมาะกับมือใหม่สุดๆ
สำหรับใครที่สนใจ Canva ลองไปอ่าน เรื่องราวผู้ก่อตั้ง Canva << ได้ที่บทความนี้เลย
3. Asana: เครื่องมือจัดการงานและโปรเจกต์แบบมืออาชีพ

ควบคุมทุกงานในทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามความคืบหน้า มอบหมายงาน และกำหนดเดดไลน์ได้ง่ายๆ ช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับทุกขนาดองค์กรและทุกประเภทโปรเจกต์
ข้อดีของ Asana
- ใช้งานง่าย ดีไซน์สวยงาม
- มุมมองหลากหลาย (ปฏิทิน, แคนบัน, ไทม์ไลน์)
- ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ได้
- ฟีเจอร์ครบครัน ทั้งมอบหมายงาน ติดตาม และรายงาน
- เชื่อมต่อกับแอพอื่นๆ ได้มากมาย
- ดูงานในรูปแบบปฏิทินรายเดือน เห็นภาพรวมกำหนดส่งงานทั้งหมด
- ทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต และซิงค์ข้อมูลเมื่อออนไลน์
4. Buffer: จัดการโพสต์โซเชียลมีเดียแบบมืออาชีพ

Buffer ช่วยให้การจัดการโซเชียลมีเดียเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับทั้งเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก นักการตลาด หรือทีมโซเชียลมีเดียขององค์กรใหญ่ ช่วยให้สามารถสร้างและรักษาการมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามได้อย่างสม่ำเสมอ
ข้อดีของ Buffer
- ตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าได้ ไม่ต้องคอยโพสต์เอง
- แนะนำเนื้อหาที่น่าสนใจให้แชร์ ช่วยประหยัดเวลาหาคอนเทนต์
- รองรับหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn, Pinterest
- วางแผนและดูภาพรวมเนื้อหาทั้งเดือนหรือทั้งปีได้
- วิเคราะห์ผลตอบรับระยะยาว
5. Unsplash: คลังภาพสวยๆ ฟรีไม่ติดลิขสิทธิ์

หาภาพสวยๆ มาใช้งานไม่ต้องกลัวภาพติดลิขสิทธิ์ Unsplash มีภาพคุณภาพสูงมากมายให้เลือกใช้ฟรี เพิ่มความน่าสนใจให้กับเนื้อหาของคุณได้ทันที
ข้อดีของ Unsplash
- ดาวน์โหลดและใช้งานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน
- สามารถดาวน์โหลดได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทะเบียน
- ดาวน์โหลดได้ไม่จำกัดจำนวนต่อวัน
- รูปภาพส่วนใหญ่มีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับงานพิมพ์และงานออนไลน์
- มีปลั๊กอินสำหรับ Figma, WordPress, Notion ฯลฯ
- ใช้ได้ทั้งส่วนตัวและเชิงพาณิชย์
6. Xmind: เชื่อมโยงความคิด ระดมสมอง

Xmind เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับการจัดระเบียบความคิด วางแผนโครงการ หรือสรุปข้อมูล เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ หรือใครก็ตามที่ต้องการเครื่องมือช่วยในการคิดและวางแผนอย่างเป็นระบบ
ข้อดีของ Xmind
- สามารถใช้ฟีเจอร์พื้นฐานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- มีทั้ง Mind Map, Org Chart, Tree Chart, Logic Chart
- แนบลิงก์ รูปภาพ หรือไฟล์เอกสารเข้ากับหัวข้อได้
- ส่งออกแผนผังเป็นไฟล์ภาพคุณภาพสูงได้
7. Notion: จด Note และIdea แบบครบวงจร

Notion เป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นและทรงพลัง เหมาะสำหรับการจัดการความรู้ส่วนตัว, การทำงานร่วมกันในทีม, การจัดการโปรเจกต์, และการสร้างฐานความรู้ขององค์กร ด้วยความสามารถที่หลากหลาย Notion สามารถแทนที่แอพหลายตัวด้วยแพลตฟอร์มเดียว ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเป็นระเบียบมากขึ้น
ข้อดีของ Notion
- มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย
- ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
- ทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
- ใช้ง่าย ใช้ได้ครอบจักรวาล
- แชร์และทำงานกับทีมได้ง่าย
8. Figma: สร้าง Prototype สำหรับงานที่ต้องการ

Figma มีความโดดเด่นในด้านความง่ายในการเรียนรู้และใช้งาน มีtutorial และชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ทำให้สามารถเริ่มต้นสร้างงานออกแบบได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะการออกแบบตัวต้นแบบเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น
ข้อดีของ Figma
- สามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ได้
- ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา
- ส่งต่องานให้นักพัฒนาได้ง่าย มีข้อมูล CSS, ขนาด, และทรัพยากรต่างๆ พร้อมให้ export
- มีเครื่องมือออกแบบครบครัน
Figma เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการออกแบบ UI/UX โดยเฉพาะสำหรับทีมที่ต้องการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ความสามารถในการสร้าง prototype ทำให้การสื่อสารระหว่างนักออกแบบและนักพัฒนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความผิดพลาดและเวลาในการพัฒนา
9. Excel และGoogle Sheets: วิเคราะห์ข้อมูล ทำบัญชี

ทั้ง Excel และ Google Sheets เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลทางการเงินและบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนในซอฟต์แวร์บัญชีราคาแพง
ข้อดี Excel , Google Sheets
- จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ รองรับข้อมูลได้หลายแสนแถว
- สามารถนำเข้าข้อมูลจากไฟล์ CSV, ฐานข้อมูล, API และแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ
- Pivot Tables: สร้างตารางสรุปข้อมูลแบบ dynamic ได้อย่างรวดเร็ว
- มีสูตรและฟังก์ชันให้ใช้เยอะ
- สร้างกราฟและแผนภูมิได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีความซับซ้อนมากขึ้น อาจต้องพิจารณาใช้ซอฟต์แวร์บัญชีเฉพาะทางเพื่อความถูกต้องและประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้น
สำหรับใครที่สนใจเรื่องระบบบัญชี เราเคยเขียนไว้แล้วในบทความ
สรุป
แนะนำให้ลองเลือกสัก 2-3 อย่างที่คิดว่าเหมาะกับธุรกิจคุณที่สุด แล้วค่อยๆลองใช้ดู ไม่ต้องรีบค่อยๆเรียนรู้ไปทีละนิด
สุดท้ายนี้อย่าลืมติดตามบทความ จาก Young Business Guide จะมีเกร็ดความรู้ดีๆ มาแชร์ให้ตลอด
ขอให้ผู้อ่านทุกคนสนุกกับการเริ่มต้นธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่อยากเล่าเรื่องราว #เริ่มยังไงได้ยังงี้ ที่มาของธุรกิจ จุดเด่น ความสำเร็จ เรื่องราวที่อยากบอกต่อ สามารถติดต่อแชร์เรื่องราวให้ทาง Young Business Guide เพื่อ ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ทั้งการเขียนคอนเทนต์ การถ่ายภาพ หรือทำคลิปวิดีโอเพื่อโปรโมทได้ โดยท่านจะได้ลิขสิทธิ์ภาพและวิดีโอคุณภาพไปใช้สำหรับทำการตลาดภายในบริษัทท่าน
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
Mail : youngbusinessguide@gmail.com
เบอร์โทร : 085-3956163 ( คุณโบ )
หรือ website : https://youngbusinessguide.com/contact/
รีวิว #เริ่มยังไงได้อย่างงี้
อ่านบทความเพิ่มเติม
จำนวนคนอ่าน: 24
