จากศูนย์สู่เจ้าของธุรกิจ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ
02 Aug 2024
BY YoungBusinessGuide
การก้าวเข้าสู่โลกของการเป็นเจ้าของธุรกิจ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่หลายคนที่ใฝ่ฝันอยากจะไปให้ถึง แต่การจะประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้ได้ ไม่ใช่แค่การมีไอเดียเจ๋งๆ สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้น คือการมีความพร้อมทั้งในแง่ของความรู้ ทักษะ และแผนการที่เหมาะสม
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจประเด็นสำคัญๆ ที่ควรศึกษาและเช็คให้ครบถ้วนก่อนการตัดสินใจเริ่มทำธุรกิจ เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือมีประสบการณ์ทางธุรกิจมาบ้างแล้ว บทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
1. ทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมาย
การวิเคราะห์และศึกษาตลาดเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญมาก ก่อนจะโดดลงไปทำธุรกิจอะไร เราต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราเป็นใคร พวกเขามีความต้องการอะไร และตลาดที่เราจะเข้าไปแข่งนั้น มีคู่แข่งรายไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นอยู่แล้ว
ถ้าเราไม่รู้จักตลาด และลูกค้าของตัวเอง เราก็จะทำธุรกิจไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า อาจต้องเจ็บตัวเสียเงินลงทุนไปมากมาย หรือแย่กว่านั้นคือล้มเหลวไปเลย เพราะไม่มีใครซื้อสินค้าหรือบริการของเรา
ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า :
- ใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา?
- พวกเขามีความต้องการอะไร?
- มีคู่แข่งรายไหนบ้างที่กำลังตอบโจทย์ความต้องการนี้อยู่แล้ว?
- เรามีจุดแข็งหรือข้อได้เปรียบอะไรที่แตกต่างจากคู่แข่งบ้าง?
ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายเครื่องมือมากที่จะช่วยให้คุณทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น การทำ STP Marketing คือแนวคิดทางการตลาดที่ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก
- S (Segmentation) แบ่งตลาดออกเป็นกลุ่มย่อยตามลักษณะของลูกค้า เช่น อายุ รายได้ ไลฟ์สไตล์
- T (Targeting) เลือกกลุ่มตลาดที่ต้องการมุ่งเน้น
- P (Positioning ) สร้างภาพลักษณ์ของสินค้าหรือบริการให้โดดเด่นเพื่อให้เข้าใจอยู่ในใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
วิธีนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น และทำให้ลูกค้าชอบสินค้าของเรามากขึ้น
2. การวางแผนธุรกิจ
เมื่อรู้จักตลาดของเราดีแล้ว ขั้นต่อไปคือต้องวางแผนธุรกิจให้รอบคอบ ตั้งแต่กำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว กลยุทธ์ในการบรรลุเป้าหมาย ไปจนถึงการวางแผนดำเนินงานในแต่ละวัน ต้องเขียนออกมาให้ชัดเจน
แผนธุรกิจจะเป็นเหมือนพิมพ์เขียว นำทางเราไปสู่เป้าหมาย ช่วยให้เรากำหนดทิศทาง และขั้นตอนการดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ ถ้าขาดการวางแผนที่ดี ธุรกิจก็จะดำเนินไปแบบไร้ทิศทาง ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน จะทำอะไรก่อนหลัง และอาจทำให้เกิดปัญหาที่ซับซ้อนกว่าเดิม
ซึ่งสามารถดูวิธีการวางแผนธุรกิจอย่างละเอียดได้ผ่านบทความ Step by Step เขียนแผนธุรกิจสำหรับมือใหม่ ในปี 2024
3. การวางแผนการเงิน
อีกเรื่องสำคัญไม่แพ้กันคือการวางแผนการเงิน เพราะเงินคือเลือดที่หล่อเลี้ยงธุรกิจ ถ้าเงินหมดธุรกิจก็อยู่ไม่ได้ เราต้องประเมินให้ดีว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเท่าไหร่ จะทำยังไงให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอ และต้องมีแผนจัดสรรงบประมาณ
ปัญหาการเงินเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจล้มเหลว หากเราขาดการวางแผนการเงินที่ดี เช่น ลงทุนผิดพลาด ก็อาจต้องปิดกิจการ หรือแบกหนี้สินมหาศาลได้
การวางแผนการเงินไว้ตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงปัญหาด้านการเงินไปได้เยอะเลย
4. ทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
ต่อมาเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม นั้นก็คือกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ใบอนุญาตประกอบการ กฎหมายแรงงาน ภาษี ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
การละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่เพียงทำให้เราเสี่ยงโดนปรับ โดนลงโทษ หรือถูกฟ้องร้อง แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของธุรกิจอีกด้วย ในทางกลับกัน การทำตามกฎระเบียบที่ถูกต้องก็จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่จะตามมา
ลองดูว่าธุรกิจของเราเกี่ยวข้องกับกฎหมายอะไรบ้าง ลองศึกษาข้อมูลคร่าวๆก่อน อาจสอบถามจากผู้ประกอบการรายอื่น หรือควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าเราเข้าใจถูกต้อง อย่าคิดว่าใช้เงินเปลือง เพราะกฎหมายเป็นเกราะคุ้มกันธุรกิจที่คุ้มค่ามากๆ
5. บุคลากรที่จำเป็นในธุรกิจ
ในช่วงแรก ธุรกิจอาจยังไม่มีพนักงานครบทุกตำแหน่ง เจ้าของอาจต้องรับหน้าที่หลายอย่างไปก่อน จากนั้นค่อยๆ เพิ่มบุคลากรตามความจำเป็น ตามการเติบโตของธุรกิจ สิ่งสำคัญคือเราต้องประเมินให้ดีว่า เมื่อไหร่ควรจ้าง แต่ละตำแหน่งต้องการคนที่มีคุณสมบัติแบบไหน
ขอยกตัวอย่างตำแหน่งพื้นฐานที่ควรมีเมื่อเริ่มกิจการ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด และความซับซ้อนของธุรกิจ
- ฝ่ายการเงิน/บัญชี ดูแลเรื่องการเงิน ตั้งแต่การวางแผนงบประมาณ จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย ไปจนถึงการจัดการภาษีอากร
- ฝ่ายขายและการตลาด รับผิดชอบการหาลูกค้า ดูแลยอดขาย วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ประชาสัมพันธ์
- ฝ่ายผลิต ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ เช่น หากเป็นธุรกิจผลิตสินค้า ก็ต้องมีทีมผลิต ควบคุมคุณภาพ จัดซื้อวัตถุดิบ แต่ถ้าเป็นธุรกิจบริการ อาจเป็นผู้ให้บริการลูกค้า หรือผู้ปฏิบัติงานตามสายงานนั้นๆ
- ฝ่ายบุคคล/ทรัพยากรบุคคล – ดูแลการสรรหา คัดเลือก อบรมบุคลากร จัดการเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ ไปจนถึงดูแลความเป็นอยู่และแก้ไขปัญหาให้พนักงาน
6. การวางแผนการตลาด และส่งเสริมการขาย
การวางแผนการตลาดและการส่งเสริมการขายเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เราอาจมีสินค้าหรือบริการที่ดีเลิศ แต่ถ้าไม่มีใครรู้จัก หรือไม่อยากซื้อ ธุรกิจก็ไปไม่รอดอยู่ดี เราจึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบว่าจะสื่อสารคุณค่าของแบรนด์เราอย่างไร สร้างการรับรู้ กระตุ้นความต้องการซื้อ และผูกใจลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ
เริ่มจากการกำหนดตำแหน่งทางการตลาด และคุณค่าหลักที่แบรนด์ต้องการสื่อ มองหาจุดที่ทำให้เราแตกต่างจากคู่แข่ง จากนั้นกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการ ผ่านช่องทางต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายของเราใช้ เช่น การทำโฆษณาออนไลน์ การทำ content marketing การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึงการทำ PR เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
อีกทั้งอย่าลืมตั้งงบประมาณการตลาดให้ไม่มากหรือน้อยเกินไป และวัดผลเป็นระยะเพื่อจะได้ปรับกลยุทธ์ได้ทัน หากทำได้ดีแบรนด์จะครองใจลูกค้า และเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน
7. ประเมินความเสี่ยง
ประเด็นสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ การประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งวางแผนรับมือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะในโลกของธุรกิจ มีความไม่แน่นอนรอเราอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ วิกฤตเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค กฎระเบียบต่างๆ และอีกสารพัด เราจึงต้องคาดการณ์ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง และเตรียมแผนสำรองเอาไว้
ลองคิดดูว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา ทั้งจากภายใน และภายนอก โดยอาจใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น SWOT analysis มาช่วย ให้ประเมินโอกาสที่แต่ละเหตุการณ์จะเกิด และระดับความรุนแรงของผลกระทบ ควรโฟกัสความเสี่ยงที่สำคัญๆก่อน ต่อมาให้คิดหาวิธีป้องกันและบรรเทาความเสี่ยงเหล่านั้น
สุดท้ายก็ให้ทำแผนฉุกเฉิน เผื่อเกิดเหตุการณ์จริงจะได้รู้ว่าใครต้องทำอะไร เพื่อจัดการความเสียหายให้น้อยที่สุด การมีแผนรับมือที่ดี ถือเป็นทักษะสำคัญที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ขาดไม่ได้เลย
จากที่เราได้เรียนรู้กันมาทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าการเริ่มต้นธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งการวิเคราะห์ตลาด วางแผนกลยุทธ์ บริหารการเงิน ปฏิบัติตามกฎหมาย บริหารบุคลากร ทำการตลาด และจัดการความเสี่ยง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม
สำหรับธุรกิจที่อยากเล่าเรื่องราว #เริ่มยังไงได้ยังงี้ ที่มาของธุรกิจ จุดเด่น ความสำเร็จ เรื่องราวที่อยากบอกต่อ สามารถติดต่อแชร์เรื่องราวให้ทาง Young Business Guide เพื่อ ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ทั้งการเขียนคอนเทนต์ การถ่ายภาพ หรือทำคลิปวิดีโอเพื่อโปรโมทได้ โดยท่านจะได้ลิขสิทธิ์ภาพและวิดีโอคุณภาพไปใช้สำหรับทำการตลาดภายในบริษัทท่าน
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
Mail : youngbusinessguide@gmail.com
เบอร์โทร : 085-3956163 ( คุณโบ )
หรือ website : https://youngbusinessguide.com/contact/
รีวิว #เริ่มยังไงได้อย่างงี้
